วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The wizard of OZ พ่อมดแห่งเมืองออซ

The wizard of OZ 

พ่อมดแห่งเมืองออซ

ตอนที่ 3 เมืองมรกต
"พวกเราต้องการเจอเขา" โดโรธีพูด "ได้โปรดบอกเขา" "เอาล่ะ" ผู้ชายคนนั้นพูด "ฉันสามารถพาเธอไปหาเขาได้ แต่อันดับแรกพวกเธอต้องสวมแว่นก่อน" เขาเปิดกล่องใบใหญ่ ในกล่องเต็มไปด้วยแว่นจำนวนมาก "พวกเธอจะต้องใส่แว่นตลอกเวลา" เขาพูด "ทุกๆคนในเมืองนี้จะต้องใส่แว่น" พ่อมดว่าไว้อย่างนั้น ดังนั้นพวกเราทั้งหมดจึงสวมแว่น ผู้ชายใส่ชุดสีเขียวก็สวมแว่นเช่นกัน จากนั้นก็นำพาพวกเขาผ่านเข้าไปยังเมืองมรกต ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้เป็นสีเขียว ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย บ้าน ร้านค้า หรือแม้แต่ถนน ผู้ชายใส่ชุดสีเขียวพาพวกเขาไปยังบ้านหลังใหญ่ และพวกเขาก็เดินเข้าไปในห้องสีเขียว "ยืนรอฉันอยู่ที่นี่ก่อน" ผู้ชายตัวเขียวพูด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมา "คุณเห็นพ่อมดไหม" ผู้ชายใส่ชุดเขียวถาม "แต่พวกเธอจะต้องเข้าไปหาเขาทีละคน" จากนั้นเขาก็เดินไป และเด็กผู้หญิงใส่ชุดเขียวก็เดินเข้ามา หล่อนพาโดโรธีเข้าไปในประตูสีเขียว "พ่อมดอยู่ที่นี่" เด็กผู้หญิงใส่ชุดเขียวพูด "เขากำลังรอเธออยู่" โดโรธีเดินเข้าไปข้างใน บนเก้าอี้สีเขียวมีหัวที่ใหญ่มาก ไม่มีลำตัว ไม่มีแขน และไม่มีขา มีแต่หัวอย่างเดียว ปากของมันเปิดและพูดว่า "ฉันคือออซ เธอเป็นใครและเธอต้องการอะไร" "ฉันชื่อโดโรธี" หล่อนพูดอย่างกล้าหาญ "เธอได้รองเท้าสีแดงนั้นจากทีไหน" "จากแม่มดชั่วร้ายทิศตะวันออก" โดโรธีพูด "บ้านของฉันตกทับจนหล่อนตาย" " มีอะไรบางอย่างอยู่บนใบหน้าของเธอ?" "รอยจูบสิ แม่มดใจดีทิศเหนือจูบแก้มฉัน" โดโรธีพูด "ฉันต้องการความช่วยเหลือเธอต้องการอะไรอีก?" " ฉันต้องการจะกลับบ้านที่แคนซัส" โดโรธีตอบ "แต่ฉันไม่รู้จะไปทางไหน ได้โปรดช่วยให้ฉันได้กลับบ้านเถอะ" "ดวงตาอันกลมโตก็เปิดๆปิด จากนั้นปากก็เปิดและพูดได้อีกครั้ง "เยี่ยม บางทีฉันอาจจะช่วยเธอได้ แต่อันดับแรกเธอจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ฉัน" "ต้องการให้ฉันช่วยอะไรเธอละ?" โดโรธีถาม "ฆ่าแม่มดชั่วร้ายทิศตะวันตก" " แต่ฉันไม่ต้องการที่จะฆ่าใครทั้งนั้น" โดโรธีพูด "เธอฆ่าพี่สาวของมันได้ และเธอก็ใส่รองเท้าวิเศษ ไปฆ่าแม่มดชั้วร้ายทิศตะวันตกเดี๋ยวนี้" โดโรธีเริ่มจะร้องไห้ "และฉันจะฆ่าแม่มดได้อย่างไร" หล่อนพูด ดวงตาอันกลมโตก็เปิดขึ้นและมองดูที่หล่อน แต่เขาไม่ตอบ โดโรธีเดินออกไป และหลังจากนั้นหุ่นไลก่า หุ่นแหล็ก และสิงโต ก็เดินเข้าไปยังห้องของพ่อมด ต่อมา พวกเขาทั้งหมดก็พบกันในห้องเสียงเขียวและพูดคุยกัน โดโรธีก็ถามเพื่อนๆของเขาเกียวกับหัวอันนั้น "มันน่าสนใจมาก " หุ่นไล่กาพูด "ฉันไม่เห็นหัวนั้นนะ
ฉันเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ฉันถามหล่อนเรื่องสมอง หล่อนพูด " ได้ แต่อันดับแรกเธอต้องช่วยโดโรธีฆ่าแม่มดทิศตะวันตกเสียก่อน" "ฉันเห็นสัตว์ตัวใหญ่สองหัว" หุ่นเหล็กพูด "ฉันถามเรื่องหัวใจ สัตว์ตัวนั้นก็พูดว่า "ฉันสามารถให้หัวใจเธอได้ แต่อันดับแรกเธอต้องช่วยโดโรธีฆ่าแม่มดทิศตะวันกเสียก่อน" "เธอเห็นอะไรละสิงโต?" "ฉันเห็นไฟกลมๆ" สิงโตผู้ขี้ขลาดพูด จากนั้นฉันก็พูดว่า "ฉันคือสิงโต ช่วยให้ฉันมีความกล้าหาญได้ไหม" ไฟกลมๆพูด "เมื่อแม่มดทิศตะวันตกตาย ฉันจะช่วยเธอ" สิงโตเริ่มโมโห แต่ไฟกลมๆก็เริ่มใหญ่ขึ้นๆ สิงโตจึงวิ่งหนีไป "โอ้ แล้วพวกเราจะทำยังไง? " โดโรธีพูด "เยี่ยม" หุ่นไล่กาพูด "พวกเราจะต้องตามหาแม่มดทิศตะวันตก และพวกเราจะต้องฆ่าหล่อน"

ตอนที่ 4 แม่มดและลิง
เช้าวันต่อมา พวกเขาออกจากเมืองมรกต ผู้ชายตัวสีเขียวถอดแว่นของพวกเขาออกและบอกหนทางที่จะไปยังบ้านแม่มด "ทุกคนกลัวแม่มดทิศตะวันตก" เขาพูด "ระวังตัวด้วยนะ" พวกเขาเดินทางเป็นเวลายาวนาน ถนนหนทางเริ่มน่ากลัว แถวนี้ไม่มีบ้าน ไม่มีทุ่งหญ้า และไม่มีต้นไม้ ตอนนี้ แม่มดทิศตะวันตกมีตาวิเศษ และสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง หล่อนเห็นพวกเขาเดินอยู่บนถนน จึงโกรธมาก หล่อนวางหมวกสีดำและร่ายมนต์เรียกพวกลิง ลิงสองตัวเดินทางมาที่บ้านของหล่อน "ท่านต้องการอะไร?" ลิงถาม "มีผู้หญิง หุ่นไล่กา หุ่นเหล็ก สุนัขและสิงโตอยู่บนถนน" หล่อนพูด "ฆ่าพวกมันให้หมด ยกเว้นสิงโต นำมันมาให้ฉันที่บ้าน มันสามารถทำงานให้ฉันได้"
"ได้เลย" ลิงพูด และบินออกไป พวกมันหักขาและแขนของหุ่นเหล็ก และดึงฟางข้าวออกจากตัวหุ่นไล่กา และเหวี่ยงเสื้อผ้าขึ้นไปบนต้นไม้ จากนั้นพวกมันก็จับเจ้าสิงโตไปไว้ในห้องมืดใต้ดินที่บ้านของแม่มด แต่พวกมันไม่สามารถทำร้ายโดโรธีและโตโต้ได้ เพราะรอยจูบของแม่มดใจดี ลิงพวกนั้นจึงยกพวกเขาขึ้นอย่างระมัดระวังและพาไปยังบ้านของแม่มด
แม่มดเห็นรอยจูบบนหน้าของโดโรธี และรู้สึกกลัว แต่หล่อนก็ไม่ถามโดโรธีเกี่ยวกับรอยจูบนั้น "เธอจะต้องทำงานอยู่ในบ้านของฉัน" แม่มดพูดกับโดโรธี "ทำทั้งวันและทำทุกวัน และจำเอาไว้ว่าฉันดูเธออยู่ทุกเวลา" โดโรธีไม่รู้ แต่รองเท้าสีแดงได้สำแดงฤทธิ์ แม่มดจึงต้องการรองเท้าคู่สีแดงนั้นมาก แต่โดโรธีไม่เคยถอดมันเลย หล่อนจะถอดเมื่อทำความสะอาด แต่แม่มดไม่เคยเข้าใกล้น้ำ หล่อนกลัวน้ำมากๆ เช้าวันหนึ่ง รองเท้าข้างซ้ายของโดโรธีหล่น แม่มดเก็บร้องเท้าข้างนั้นไว้ "นี่คือร้องเท้าของฉัน" แม่มดพูดดังขึ้น "มันไม่ใช่รองเท้าของเธอ โดโรธีพูดขึ้นด้วยความโมโห "ส่งรองเท้าข้างนั้นมาให้ฉันนะ" "ไม่" แม่มดพูด และหนังจากนั้นหล่อนก็พยายามที่จะเอารองเท้าอีกข้างของโดโรธี
โดโรธีรักรองเท้าของหล่อน หล่อนโมโหมาก ที่นั้นมีตะกร้าใส่น้ำวางใกล้ๆกับประตู หล่อนจึงหยิบตะกร้าขึ้นและสาดน้ำในตะกร้าไปที่แม่มด น้ำสาดไปที่ใบหน้าของหล่อน หล่อนจึงร้องขอความช่วยเหลือ น้ำกำลังจะฆ่าฉัน... จากนั้นแม่มดก็หมายตัวไปเหลือไว้แค่หมวกและชุดคลุมสีดำ โดโรธีมองดูหลายครั้ง แม่มดไม่ได้อยู่ที่นี่ หล่อนจึงหยิบรองเท้าสีแดงมาสวม "ฉันสามารถช่วยเหลือเพื่อนๆของฉันได้อย่างไร?" หล่อนพูด "ฉันสามารถเรียกลิงพวกนั้นได้ไหม" หล่อนหยิบหมวกของแม่มดขึ้นมาและและมองดู "บางทีฉันคงต้องสวมหมวกวิเศษใบนี้ เวลาฉันพูด" ดังนั้นหล่อนจึงสวมหมวกและเรียกพวกลิงมาหาหล่อน พวกลิงมาถึง "ได้โปรด เธอสามารถช่วยเพื่อนฉันได้ไหม" "ได้สิ" ลิงพูด "พวกเราต้องช่วยเหลือชุดและหมวกวิเศษ พวกลิงทำลายประตูในห้องมืดใต้ดิน และสิงโตผู้ขี้ขลาดก็ออกมาได้ "ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระ" สิงโตพูด "ขอบคุณมาก"
จากนั้นพวกลิงก็ค้นพบเสื้อผ้าของหุ่นไล่กาและมัดฟางข้าวให้กับหุ่นไล่กาใหม่ หุ่นไล่กาหัวเราะ และกระโดด "ขอบคุณ" เขาพูด ลิงอีกตัวซ่อมแซมหุ่นเหล็กและใส่กระป๋องน้ำมันให้ใหม่ หุ่นเหล็กสามารถเคลื่อนย้ายแขนและขาได้ "ฉันรู้สึกวิเศษ" เขาพูด "ขอบคุณมาก" โดโรธีบอกเพื่อนๆของเธอเกี่ยวกับแม่มดและน้ำ พวกเขาทั้งหมดมีความสุขมาก โตโต้ไม่สามารถพูดได้ แต่มันกระโดดขึ้นลงๆอย่างมีความสุข "ตอนนี้" โดโรธีพูด "พวกเราจะต้องกลับไปหาพ่อมดแห่งออซ พวกลิงวิเศษ ได้พาพวกไปยังเมืองมรกต "อย่าลืมหมวกวิเศษนะ" หุ่นเหล็กพูด บรรดาลิงพาบวกเขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า สิบนาทีต่อมา พวกเขาก็อยู่ที่ประตูสีเขียวบานใหญ่ในเมืองมรกตอีกครั้ง

ตอนที่ 5 ชายแก่จากแคนซัส
ผู้ชายตัวสีเขียวเปิดประตู เขาให้พวกเราทั้งหมวดสวมแว่น จากนั้นก็พาพวกเราผ่านเมืองไปยังบ้านของพ่อมด ที่นี้ในห้องสีเขียว พวกเรารอ รอ และก็รอ หลังจากสามชั่วโมงผ่านไป หุ่นไล่กาพูด "ฉันรอจนเหนื่อยแล้ว" เขาเรียกผู้ชายตัวเขียว "พวกเราต้องการพบพ่อมดเดี่ยวนี้" "พวกเธอสามารถมาและเห็นฉันได้เวลา9โมงเช้าของวันพรุ่งนี้" เวลา9โมงเช้า ผู้ชายตัวเขียวพาพวกเราไปยังห้องของพ่อมด พวกเขาเข้าไปด้านในและมองไปรอบๆแต่พวกเขาไม่สามารถเห็นใคร จากนั้นมีเสียงดังขึ้น "ฉันคือพ่อมดแห่งออซ เธอเป็นใคร? และเธอต้องการอะไร?" "เธออยู่ที่ไหน” โดโรธีถามฉันอยู่ทุกที่แต่เธอไม่สามารถมองเห็นฉัน ตอบฉันสิว่าเธอเป็นใครและเธอต้องการอะไร?" "เธอรู้จักพวกเราดี" หุ่นไล่กาพูด "เธอพูดกับฉัน ว่าจะช่วยโดโรธีฆ่าพ่อมดทิศตะวันออก และเธอสามารถให้สมองฉันได้" "ตอนนี้แม่มดได้ตายไปแล้ว และฉันก็ต้องการสมองของฉัน"
"ฉันต้องการหัวใจของฉัน" หุ่นเหล็กพูด "ฉันต้องการความกล้าหาญ" สิงโตผู้ขี้ขลาดพูด" " ฉันต้องการกลับบ้านที่แคนซัส" โดโรธีพูด "แม่มดตายแล้วจริงหรือ" เสียงปริศนานั่นพูด " ใช่ " โดโรธีพูด "ฉันสาดน้ำในตะกร้าใส่หล่อน และหล่อนก็หายตัวไป" "เยี่ยมมาก " เสียงนั้นพูด "พวกเธอค่อยมากันใหม่พรุ่งนี้ ฉันต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นก่อน" " ไม่ได้" หุ่นเหล็กพูด "ฉันต้องการหัวใจเดี๋ยวนี้เลย" "ฉันจะไม่รออีกต่อไป" หุ่นไล่กาพูด "และฉันจะกินเธอ" สิงโตพูดอย่างโกรธมาก โตโตรู้สึกกลัว มันเลยถอยออกห่างจากสิงโตและไปชนกับม่านกั้นใกล้ๆกับกำแพง ม่านกั้นก็หล่นลง ทุกคนก็เห็นผู้ชายแก่ๆคนหนึ่ง ไม่มีผม
หุ่นเหล็กมองดูอย่างโกรธและหยิบขวานของเขาขึ้นมา "เธอเป็นใคร" หุ่นเหล็กพูด "ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย" ชายแก่พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ "ฉันคือพ่อมดแห่งออซ" "แต่พ่อมดแห่งออซ มีหัวใหญ่ และไม่มีลำตัว" โดโรธีพูด " ไม่ใช่นะ เขาเป็นผู้หญิงสวย" หุ่นไล่กาพูด " เธอพูดผิดละ" หุ่นเหล็กพูด "พ่อมดแห่งออซเป็นสัตว์ตัวใหญ่มีสองหัว" "ไม่ใช่นะ" สิงโตพูด "พ่อมดแห่งออซเป็นดวงไฟกลมๆ" "พวกเธอทั้งหมดพูดผิดแล้วละ" ชายแก่พูด "ฉันคือพ่อมด แต่ฉันไม่ใช่พ่อมดจริงๆ
โอ้ ฉันรู้เรื่องมายากลมากมาย แต่ฉันไม่รู้เรื่องเวทมนต์ที่แท้จริง เธอเห็นไหม ฉันมาจากแคนซัสเหมือนกับพวกเธอ ฉันมาจากเมืองอีกเมือง ฉันมีมายากล และฉันขึ้นไปในบอลลูน บอลลูนมักจะอยู่บนเชือก แต่มาวันหนึ่งได้มีบางอย่างผิดปกติ เชือกขาดและบอลลูนก็ลอยไป เป็นเวลานานที่ลมได้พาบอลลูนของฉันข้ามไปอีกฟ้า จากนั้นฉันก็มาอยู่ทีนี่ ในเมืองออซ ผู้คนในเมืองนี้เห็นบอลลูนและพูดว่า " ผู้ชายคนนี้คือพ่อมด เขามาจากท้องฟ้า" พวกเขากลัวและต้องการที่จะทำงานให้กับฉัน พวกเขาจึงสร้างเมืองนี้ให้ฉันและเรียกเมืองนี้ว่า เมืองมรกต มรกตมีสีเขียว ฉันจึงทำแว่นตาสีเขียวให้กับทุกคน นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้จึงเป็นสีเขียว" หุ่นไล่กาถอดแว่นออก "โอ้" เขาพูด "ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเมืองมรกตไม่ได้เป็นสีเขียว มันเพียงแค่มองเป็นสีเขียว ทั้งหมดนี้เป็นมายากล" "ใช่แล้ว" ชายแก่พูด "และมันเกิดขึ้นหลายปีมาแล้ว ฉันไม่เคยออกจากที่นี่ เพราะกลัวสองแม่มดชั่วร้าย ตอนนี้พวกเขาได้ตายไปแล้ว ขอบคุณเธอมาก โดโรธี แต่ฉันเสียใจที่ฉันไม่รู้เรื่องเวทมนต์ที่แท้จริง ฉันไม่สามารถช่วยเธอได้ "คุณชั่วมาก" โดโรธีพูด " ไม่นะเด็กน้อย ฉันเป็นคนดีมาก แต่ฉันเป็นพ่อมดที่ไม่ดี จริงใช่ไหม" "ไหนละสมองของฉัน" หุ่นไล่กาพูด "เธอไม่ได้ต้องการสมอง เธอเข้าใจบางสิ่ง เธอสามารถคิด เธอเรียนรู้ได้รวดเร็ว เธอฉลาดมากแล้ว" "ฉันต้องการสมอง" หุ่นไล่กาพูด "ดีมาก" ชายแก่พูด ฉันสามารถให้สมองเธอได้ในวันพรุ่งนี้เช้า" "ไหนหัวใจของฉันละ" หุ่นเหล็กถาม "เธอไม่ได้ต้องการหัวใจ" ชายแก่พูด "เธอหัวเราะ เธอร้องไห้ เธอรู้สึกรัก เธอรู้สึกเสียใจใครบางคน" หุ่นเหล็กมองเขาด้วยความโกรธและหยิบขวานของเขาขึ้น " ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย" ชายแก่พูด ฉันสามารถให้หัวใจเธอได้ในวันพรุ่งนี้เช้า" "ฉันต้องการที่จะมีความกล้าหาญ" สิงโตผู้ขี้ขลาดพูด " แต่เธอไม่มีความกล้าหาญ เธอทำในสิ่งที่กล้าหาญมากแล้ว ไม่นะ อย่ากินฉันเลย มาที่นี้พรุ่งนี้เช้า ฉันจะสร้างความกล้าหาญให้เธอ" "แล้วโตโต้กับฉันละ?" โดโรธีถาม "พวกเธอสามารถขึ้นไปบนบอลลูนของฉัน" พ่อมดพูด "และลมจะพัดพวกเธอจากที่นี่ไปยังแคนซัส บางทีมันสามารถพัดพวกเธอกลับไปแคนซัสอีกครั้ง
เช้าวันต่อมา พวกเขากลับมาที่ห้องของพ่อมดอีกครั้ง ชายแก่พร้อมแล้ว เขาหยิบขวดขึ้นมา ข้างขวดพันด้วยกะดาษสีเขียวแผ่นใหญ่และเขียนว่า สมอง เขาค่อยๆเปิดหัวของหุ่นไล่กาอย่างระมัดระวัง "อย่าขยับนะ! ฉันกำลังใส่สมองให้เธอ" ชายแก่พูด " "ตอนนี้เธอเป็นหุ่นไล่กาที่ฉลาดที่สุดในเมืองออซแล้ว" หุ่นไล่กาขอบคุณชายแก่ ต่อมาพ่อมดให้หัวใจดวงเล็กๆสีแดงกับหุ่นเหล็ก " ใส่ไว้ตรงนี้นะ" ชายแก่พูด หุ่นเหล็กมีความสุขมากๆและขอบคุณพ่อมดอีกครั้ง ต่อมาชายแก่หยิบขวดขึ้นมา ข้างขวด เขียนว่ากล้าหาญ "ลองดื่มนี่สิ" ชายแก่พูดกับสิงโตผู้ขี้ขลาด สิงโตดื่มมันเข้าไป "ใช่เลย ฉันรู้สึกกล้าหาญขึ้น" สิงโตตะโกน "ฉันรู้สึกกล้าหาญขึ้นมาก" ขอบคุณ
พ่อมดยิ้มให้กับพวกเขา "เธอไม่ต้องการมายากลของฉันเหรอ" เขาพูด "แต่ตอนนี้พวกเธอทั้งหมดมีความสุข และนั่นเป็นสิ่งที่ดี" "มานี่สิโดโรธี" เขาพูด "มาดูบอลลูนของฉันสิ มันพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว ฉันซ่อมมันเมื่อคืน" พวกเขาเดินไปยังสวนข้างบ้านของพ่อมด บอลลูนมีขนาดใหญ่มาก ด้านใต้มีกล่องเล็กๆอยู่ และพ่อมดแห่งออซก็กะโดดขึ้นไปในกล่องนั้น "มาสิ โดโรธี" เขาตะโกน "พวกเรากำลังจะไปแคนซัส อำลาเพื่อนๆของเธอสิ" "โดโรธีจูบหุ่นไล่กา สิงโต และหุ่นเหล็ก และอำลาเพื่อนทุกคน "มาสิโตโต้" หล่อนพูด "เราจะได้กำกลับบ้านที่แคนซัสแล้วนะ เราจะได้เจอป้าเอ็มและลุงเฮนรี่แล้ว" "แต่ทันใดนั้นโตโต้เห็นแมวมันจึงกระโดดจากแขนของโดโรธีและวิ่งตามแมวตัวนั้น "โตโต้" โดโรธีเรียกและวิ่งตามโตโต้


ตอนที่ 6 ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก-บ้านที่ดีที่สุด
"ปล่อยโตโต้ไว้ซะ แล้วรีบวิ่งมา" พ่อมดตะโกนเรียก "เชือกกำลังจะขาด!" โดโรธีอุ้มโตโต้ขึ้นและรีบวิ่ง "รอฉันด้วย" โดโรธีตะโกน แต่ก่อนที่โดโรธีจะมาถึง เชือกก็ขาด และบอลลูนก็ลอยขึ้น ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเราได้ยินเสียงชายแก่เริ่มไกลออกไป "ถามแม่มดทิศใต้" จากนั้นบอลลูนก็หายไป และไม่มีใครเห็นพ่อมดแห่งออซอีกเลย โดโรธีเริ่มร้องให้ "โอ้ แล้วฉันจะหาทางกลับบ้านได้อย่างไร" "ใส่หมวกวิเศษสิ" หุ่นไล่กาพูด "และขอความช่วยเหลือจากลิงพวกนั้น บางทีบวกมันอาจจะสามารถหาแม่มดทิศใต้ได้และพาหล่อนมาหาฉันที่นี่""ฉลาดมากหุ่นไล่กา" โดโรธีพูด หล่อนใส่หมวกวิเศษและเรียกพวกลิงมา.เมื่อลิงมาถึง หล่อนพูด "ได้โปรดช่วยฉันค้นหาแม่มดทิศใต้และนำหล่อนมาให้ฉันที่เมืองมรกตนี้ ห้านาทีต่อมา ผู้หญิงสวยคนหนึ่ง มีผมสีแดง ก็มาถึง "ฉันคือจรินดา ฉันเป็นแม่มดทิศใต้" หล่อนพูด "อยากให้ฉันช่วยอะไรเธอ เด็กน้อย" "ฉันต้องการกลับบ้านที่แคนซัส" โดโรธีพูด "โปรดช่วยฉันได้ไหม" " ถามรองเท้าเธอสิ" แม่มดใจดียิ้ม แต่โดโรธีไม่เข้าใจ "รองเท้าสีแดงของเธอเป็นรองเท้าวิเศษ" จรินดาพูด มันสามารถพาเธอกลับบ้านได้ เพียงแค่เธอหลับตาและก็พูดว่า ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก เป็นบ้านที่ดีที่สุดของฉัน" จากนั้นก็กระโดด "โอ้ ขอบคุณมาก" โดโรธีร้องไห้อย่างมความสุข หล่อนจูบเพื่อนของหล่อนและล่ำลา จากนั้นหล่อนก็อุ้มโตโต และปิดตา "ทิศตะวันออกตะวันตกเป็นบ้านที่ดีที่สุด" หล่อนพูดและกระโดด ที่นี่เสียงเงียบเหมือนลมและทันใดนั้นโดโรธีก็อยู่บนท้องฟ้า รองเท้าสีแดงหล่นจากเท้าของหล่อนและหล่อนก็ไม่เห็นมันอีกเลย เมื่อหล่อนลืมตาขึ้น ที่นี่คือแคนซัส มีป้าเอ็มกับลุงเฮนรี่อยู่ในทุ่งหญ้ากับบ้านเล็กๆหลังใหม่ "โดโรธี" ป้าเอ็มร้องไห้ และวิ่งมากอดโดโรธีในอ้อมแขน "โอ้ โดโรธี เกิดอะไรขึ้น? และเธอมาจากที่ไหน? ฉันมาจากเมืองออซ "โดโรธีพูด "แต่ตอนนี้ฉันกลับบ้านแล้ว ฉันมีความสุขมากๆเลย


วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 16 ในห้องเรียน

Learning Log 15 นอกห้องเรียน

Learning Log 15 นอกห้องเรียน

จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบรูณาการทักษะในวันที่ 30 เวลา 13.00-16.00 น. โดยท่านวิทยากร ผศ.ดร ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในช่วงบ่ายนี้จะเป็นการทำทำกิจกรรมกลุ่ม จำลองห้องเรียน และการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน
The flipped Classroom ห้องเรียนกลับทาง การให้นักเรียนเรียนรู้เนื้อหาล่วงหน้าที่บ้านแล้วมาพูดคุยกันในชั้นเรียนจะทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้นเร็วขึ้น นักเรียนจะได้ทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้ลุ่มลึกและกว้างขึ้น ครูเป็นเพียงแค่คนคอยให้คำแนะนำและตอบข้อสงสัย
การเรียนการสอนการออกเสียงเป็นส่วนสำคัญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารการออกเสียงที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาในการสื่อความ การเรียงรู้และการฝึกฝนออกเสียงที่ถูกต้องนับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการออกเสียจึงการบรูณาการกับการสอนภาษาทุกทักษะ
การเรียนการสอนศัพท์ กล่าวถึงเทคนิควิธีจำคำศัพท์ กล่าวถึงเทคนิควิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษซึ่งได้แก่ การจำคำศัพท์เป็นกลุ่ม วิธีจะจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่ายคือควรจะต้องจำเป็นกลุ่มคำ ซึ่งนอกจากจำคำศัพท์แล้วจะต้องวาดภาพคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกันออกมาเป็นแผนผัง หรือจัดความสัมพันธ์กันระหว่างศัพท์เหล่านั้นแล้วเขียนออกมาเป็นแผนผัง ก็จะทำให้จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น และง่ายต่อการนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆได้
นอกจากนี้ยังมีการทำกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมแรกคือ ร้องเพลง tic tack toe โดยการแบ่งกลุ่มร้องเพลง โดยแต่ละกลุ่มจะแข่งขันกัน และร้องเพลง left and left right and right back and Forward and Tic Tack Toe จากนั้นหัวแถวของทั้งสองกลุ่มก็เสี่ยงทากันมีค้อน กรรไกร และกระดาษ ฝ่ายไหนเป็นผู้ชนะจะได้แข่งกับกลุ่มอื่นๆและถ้ากลุ่มไหนแพ้จะต้อท้ายแถวของผู้ชนะร้องเพลงไปเรื่อยๆจนกว่าจะหาผู้ชนะได้ซึ้งมีเพียงกลุ่มเดียว  กิจกรรมที่สองคือ สุ่มตัวแทนออกมา 20 คน เกมนี้จะเป็นการสร้าง Story  โดยท่านวิทยากรจะกำหนดประโยคมาให้ One upon a time….. และให้ตัวแทนที่ออกมาสร้างเนื้อเรื่องต่อๆ กันจนจบเรื่อง จากนั้นให้แต่ละกลุ่มวาดภาพที่ได้จากนั้นออกมานำเสนอและสรุปเนื้อเรื่องให้ได้ 3 ประโยค


Learning Log 14 นอกห้องเรียน

Learning Log 14 นอกห้องเรียน

  จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบรูณาการทักษะในวันที่ 30 เวลา 08.00-12.00 น. ต่อกันด้วยท่านวิทยากรคนเดิม ผศ.ดร ศิตา เยี่ยมขันติถาวร มาพูดคุยกันในหัวข้อแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา และวิธีการสอนในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์มีหลายวิธีสอน เช่น
 วิธีสอนแบบตรง (Direct Method) อิงแนวคิดที่ว่า ภาษา  คือ ภาษาพูด การเรียนภาษา คือการให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียนนั้น และเพื่อให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น การให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการที่จะคิดเป็นภาษาที่เรียนด้วย ดังนั้นการเรียนการสอนภาษาจึงควรใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นตลอดเวลาและสื่อสารราวกับอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ
วิธีสอนแบฟัง-พูด (The audio-Lingual Method) อิงแนวคิดที่ว่า ภาษา  คือ ภาษาพูดการสอนภาษาจึงเริ่มจากการฟัง-พูดซึ่งเป็นพื้นฐานไปสู่การอ่านและการเขียน ดังนั้นภาษาที่นำมาให้ผู้เรียนเรียนควรเป็นภาษาที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันในชีวิตประจำวัน จึงมีการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วย ผู้เรียนจะต้องเลียนแบบเสียงของผ็สอน จนสามารถฟังเข้าใจ เน้นการท่องจำบทสนทนา แล้วจึงเริ่มการฝึกอ่านและเขียน
วิธีสอนแบบธรรมชาติ (The natural Approach) เป็นการรับรู้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีใครสอน พัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารเกิดขึ้นกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังคงให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยากรณ์ โดยวิธรตรวจแก้ไขไปเรื่อยๆ และในระยะยาวผู้เรียนจะสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้องและเหมาะสมตามหลักไวยากรณ์ โดยเชื่อว่าความเข้าใจข้อความจะมาก่อนการพูดสนทนา และไม่จะเป็นต้องแสดงออกในด้านการพูด
วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia) การให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกสนานผ่อนคลายทางจิต กิจกรรมทางภาษาที่เน้นการสื่อสาร เน้นสภาพแวดล้อมที่เป็นจริงในการใช้ภาษา เช่น การแสดงละคร การฟังบทสนทนาโดยมีดนตรีเบาๆประกอบ
การเรียนรู้แบบรวมมือ ( Cooperative Learning) เป็นการจัดการเรียนการสอนที่แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนยังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะเป็นประชาธิปไตย เช่น คิดและคุยกัน กิจกรรมโต๊ะกลม คู่ตรวจสอบ
การเรียนรู้จากการทำโครงงาน (Project –Base Learning) เป็นวิธีการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การทำโครงงานต้องเริ่มต้นจากผู้เรียนเป็นผู้คิด ลงมือปฏิบัติ หาหนทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ กระตุ้น เช่น การจัดนิทรรศการ
ต่อไปจะเป็นการกล่าวเสวนาในหัวข้อ แนวการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณการเนื้อหาและทักษะภาษาและ แนวการสอนเพื่อการสื่อสาร(The Communicative Approach หรือ Communicative Language Teaching) เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียนโดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด การอ่าน การจับใจความสำคัญ ทำความเข้าใจ จดจำ แล้วนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ การสอนภาษาว่าด้วยการนำเสนอภาษาใหม่ในรูปแบบภาษาที่พบในสถานการณ์จริง เพื่อนำไปสู่การสอนคำศัพท์ ไวยากรณ์ การออกเสียงมีการฝึกฝนจนสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและจึงนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในสถานการณ์จริงๆ
การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเป็นการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดและประสบการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน เป็นการช่วยให้เกิดการถ่ายโอนการเรียนรู้จากวิชาหนึ่งไปอีกวิชาหนึ่ง และยังสามารถเชื่อมโยงสิ่ที่เรียนให้เข้ากับชีวิตจริงและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ จนเกิดการเรียนรุ้ที่มีความหมายมากขึ้น


Learning Log 13 นอกห้องเรียน

Learning Log 13 นอกห้องเรียน 

จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบรูณาการทักษะในวันที่ 29 เวลา 13.00-16.00 น. ในหัวข้อความรู้เชิงบรูณาการของครูสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 กับการเป็นสมาชิกอาเซียน โดย ผศ.ดร ศิตา เยี่ยมขันติถาวร  ได้กล่าวว่าปัจจุบันในด้านการพูดภาษาอังกฤษสังเกตได้เลยว่า ไม่ว่าจะท่านวิทยากรครูผู้สอน  หรือคนอื่นๆ ไม่พ้นต้องมีคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ  เพลงไทยเองถ้าอยากให้ดูโมเดิร์นต้องเพิ่มศัพท์ภาษาอังกฤษไปเพลงด้วย อย่างเช่นเพลงของพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย  “Too  much so much  ……..Loving you to much so much  very  much right how  ไม่รู้ว่าเจอเธอทำไมถึงยาก chill chill  ได้ไหม รู้ไหมดวงใจฉันปลิว รักเธอมากเกินไป มาก มาก มาก มากมาย but don’t you so ซักกะตาย I hot to lie ไม่อยากจะน้ำตาออก my eyes” แต่สิ่งที่สังเกตเห็นจากการที่ทั่งวิทยากร นักพูด เพลง คนดังหรือคนทั่วไปเอามาใช้กันนั้น มีหลายคำที่สร้างปัญหาทำเอาฝรั่งงง และใช้กันมาอย่างต่อเนืองโดยไม่มีวีแววจะเปลี่ยนแปลขนาดครูผู้สอนเองก็ยังนำไปใช้ในห้องเรียนจนติดกันไปตามๆกัน เราไมพูดเรื่องออกเสียผิดก่อนแต่เราจะพูดเรื่องใช้คำผิด ตัวอย่างเช่น
1.คำที่แปลงสบายๆปัจจุบันมักใช้คำว่า chill (ชิล)กันบ่อยๆใครไม่พูดคำว่าชิลบอกได้เลยว่าคุณเอาต์มากแต่ปัญหาคือในบางครั้งไปใช้คำว่า chill  chill จนบางครั้งวิทยากรก็สงสัยว่าเด็กไทยเข้าใจคำนี้ว่าอย่างไร ที่จริงคำนี้มาจากคำว่าchill out ที่แปลว่าสบายๆ หรือ relax ส่วนคำว่า chill chill ที่นิยมพูดกันนั้นไมได้แปลว่าสบายแต่อย่างใด ดังนั้นจีงควรใช้ประโยคว่า Don’t worry, just chill chill! และถ้าจะพูดกับฝรั่งก็ต้องพูดว่า chill out เช่น I need a  place to chill out and enjoy food.
2. Out หรือ เอาต์ มักเป็นคำพูดติดปากและเป็นแสลงที่ใช้ทุกวัน คำนี้ในบริบทของเมืองไทยหมายความว่า ตกยุคหรือล้าสมัยไปแล้ว ที่จริงคำนี้มาจากคำเต็มๆว่า out of date  แต่มันยาวเกินไป เราเลยใช้แค่เอาต์เฉยๆ แต่ถ้าไปพูดกับฝรั่งว่า เอาต์จะเป็นการไล่ให้เขาออกไป  เวลาพูดับฝรั่งคุณจะต้องพูดว่า You’re out of date. แปลว่าคุณนี่ไม่ทันสมัยเลย หรือ คุณตกยุคมากๆ  และอย่าเผลอพูดกับฝรั่งว่า” You out “เขาจะนึกว่าไล่เขาให้ออกไป
3.คำที่แปลว่าพูดจาเกินจริงที่เห็นได้ชัดและได้ยินบ่อยๆว่า เวอร์มาก” “เธอโอเวอร์ถ้าเป็นภาษาอินเตอร์เน็ตคงต้องใช้คำว่า เธอเวอร์มว๊าก และบางทีมีการนำไปใช้ในประโยคภาษาอังกฤษด้วยว่า She is over. ซึ่ที่จริงการพูดประโยคนี้ไม่มีความหมายใดๆเลยในภาษาอังกฤษ เราควรใช้คำว่า over the top หรือ exaggerate ที่เป็นคำกริยาหมายถึง การพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง เช่น
Susan : Have you listen to Peter’s speech yesterday? I think his presentation was over the top
Bill : Yes, he is over the top.
หรือถ้าจะบอกว่าอย่าพูดเกินจริงให้ใช้คำว่า Don’t be over the top. หรือ Don’t exaggerate. ส่วนอาการแสดงเกินจริงนั้นเราจะใช้คำกริยา overact เช่น You’re overacting. แปลว่าเธอทำเกินจริง
                4. เธอๆเดี่ยววันเสาร์ไปแจมด้วยนะคำที่แปลว่า ขอร่วมด้วยหรือขอมีส่วนร่วม ปัจจุบันเด็กไทยนิยมใช้คำว่า แจม (jam) เช่น I want to jam your trip. ซึ่งผิดบริบทในภาษาอังกฤษอย่างมาก เพราะในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam เพราะแปลว่า ติดขัด แออัด หรือถ้าเป็นคำนาม แปลว่า แยมทาขนมปัง ดังนั้นจึงควรใช้คำว่า join แทน เช่น I want to join your trip. เวลาขอเขาไปด้วย
                5.คำว่าชุดแซกซึ่งเป็นคำที่คนไทยนิยมใช้กันทั่วไปไม่ว่าจะเป็นร้านค้า คนซื้อขาย ซึ่งจริงๆแล้ว ความหมายของแซก คือกระสอบ ไม่ได้เป็นประเภทของชุดแต่อย่างใด ที่จริงการใช้คำว่า เดรส (dress) ที่แปลว่า ชุดที่เสื้อกับกระโปรง เพราะฉะนั้นเวลาจะไปซื้อชุด ต้องพูดว่า “ I want to buy a few dresses at a flea market.
                ต่อไปจะเป็นการพูดถึงความรู้เชิงบูรณาการระหว่างวิชาชีพครูกับวิชาภาษาอังกฤษ จะต้องมีความเข้าใจในหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับผู้เรียนในระดับประถมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษอย่างบูรณราการ คือการพูด การเขียนและภาษากาย มีความรูเรื่องการออกแบบและวาแผนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษได้อย่างเหมาะสมกับวัยและระดับของผู้เรียน ตลอกจนมีความรู้เรื่องการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้และออกแบบและสร้างสื่อภาษาอังกฤษได้ ซึ่งคุณลักษณะขอครูในศตวรรษที่ 21 จะต้องกล้าแสดงออกโดยเฉพาะการพูดและสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษได้ถูกต้องตามมาตรฐานนอกจากนี้ภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้ภาษาเปลี่ยนแปลงมีดังนี้