วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล


บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล
ความสำคัญของการแปล
ในปัจจุบันมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการเดินทาง ใช้ในทางการไปรษณีย์ ในการประชุมสัมมนานานาชาติ และใช้ในการพานิช ธุรกิจ การช่วยเหลือนานาชาติ ตลอดจนในการศึกษา จึงมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการแสดงและอธิบายความหมาย เพื่อการโต้ตอบระหว่างมนุษย์ทั่วโลก การแปลจึงมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยมีการติดต่อกับต่างประเทศในวงการต่างๆ ซึ่งผู้ที่ทำการติดต่อบางคนอาจจะรู้ภาษาต่างประเทศไม่ดีพอ จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้แปล เพื่อประหยัดเวลาและเพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพ งานแปลจึงสามารถยึดเป็นอาชีพได้ และได้รับการยกย่องว่าเป็นอาชีพที่ช่วยเสริมสร้างความเจริญก้าวหน้าแก่ประเทศให้เร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี แลนอกจากนี้นักแปลยังสามารถนำชื่อเสียงมาสู่ตนเองได้ เช่น การแปล นวนิยายและสาระบันเทิงคดีต่างๆ
การแปลคืออะไร
ปราณี บายชื่น ได้ให้ความหมายของการแปลไว้ดังนี้คือ
1.การแปลเป็นกระบวนการที่กระทำต่อภาษาคือ เอาข้อความที่เขียนด้วยภาษาหนึ่งไปใช้แทนที่ข้อความที่เขียนด้วยอีกภาษาหนึ่ง
2.การแปลเป็นทักษะพิเศษ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
3.ผู้แปลจะต้องสามารถถ่ายทอดความคิดจากต้นฉบับออกมาเป็นภาษาที่ต้องการได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งขึ้นกับความสามารถแลความรู้ของผู้แปลคือรู้ภาษา ได้แก่ โครงสร้างถ้อยคำสำนวน และรู้เนื้อหาของเรื่องที่แปลอย่างลึกซึ้ง การแปลจึงเป็นเรื่องที่สามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติได้ แต่การแปลทางด้านวรรณคดีและการแปลร้อยกรองเป็นศิลปะชั้นสูงที่ต้องอาศัยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ พรสวรรค์และความสามารถเฉพาะของผู้เรียน
คุณสมบัติของผู้แปล
เนื่องจากการแปลเป็นทักษะและศิลปะที่มีขบวนการที่กระทำต่อภาษา ผู้แปลจึงควรมีลักษณะดังนี้
1.เป็นผู้รู้ภาษาอย่างดีเลิศ
2.สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้อย่างเข้าใจ
3.เป็นผู้ที่มีศิลปะในการใช้ภาษา มีความเข้าใจแลซาบซึ้งในความสวยงามของภาษา
4.เป็นผู้เรียนวิชาภาษาและวรรณคดี หรือภาษาศาสตร์
5.ผู้แปลจะต้องเป็นผู้รอบรู้ รักเรียน รักอ่าน และรักการค้นคว้าวิจัย เพราสิ่งที่สำคัญของการแปลคือ การถ่ายทอดความคิดเป็นนามรรมออกมาโดยใช้ภาษาซึ่งเป็นรูปะรม เนื่องจากความคิดเป็นเรื่องซับซ้อนลึกซึ้ง การทำความเข้าใจเป็นเรื่องของการใช้ภูมิปัญญาและความรอบรู้ของแต่ละคน
6.ผู้แปลต้องมีความอดทนเสียสละ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้แรงความคิดและเวลาเนื่องจากการแปลเป็นเรื่องเกี่ยวกับทักษะ ซึ่งต้องมีการฝึกฝนอย่างเข้มข้น การตรวจแก้ไข จึงจะเกิดทักษะ
บทบาทของการแปล
การแปลเป็นทักษะที่พิเศษในการสื่อสาร คือ ผู้รับสาร (receiver) ไม่ได้รับสารจากผู้ส่งสารคนแรกโดยตรง แต่รับสารจากผู้แปลอีกทีหนึ่ง ผู้แปลในฐานะที่เป็นตัวกลางในการส่งสารจึงมีบทบาทสำคัญมาก เพราะผู้แปลจะต้องเป็นตัวกลางระหว่างผู้ส่งสารแลผู้รับสาร                                                             
                                                                     (Message)
Source -----> Source Language -----> Translator -----> Target Language -----> Receiver
คุณสมบัติของนักแปล
นักแปลจะต้องมีคุณสมบัติความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ดังนี้คือ
1.คุณสมบัติส่วนตัว
     1.1 มีใจรักงานแปล
     1.2 รักการอ่าน
     1.3 มีความสามารถในการอ่าน
     1.4 มีความตั้งใจและมั่นใจสูง
     1.5 มีความระเอียดรอบคอบ แลรมัดระวังในการใช้ถ้อยคำแลภาษา
     1.6 มีจรรยาบรรณของนักแปล
     1.7 มีความรู้ดี เฉลียวฉลาด
     1.8 มีจิตใจกว้างขวางและยอมรับฟังความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น
2.ความรู้
     2.1 มีความรู้ในภาษาทั้งสองอย่างดี
     2.2 มีความรอบรู้อย่างกว้างขวาง
     2.3 รักการค้นคว้าหาความรู้แลประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอกเวลา
     2.4 มีความรู้เฉพาด้านที่เกี่ยวข้องกับงานที่แปล
     2.5 มีความรู้ภูมิหลังเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของชาติที่เป็นเจ้าของภาษาต้นฉบับ
3.ความสามารถ
     3.1 สามารถตีความภาษาต้นฉบับได้อย่างดี
     3.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้
     3.3 มีความสามารถในการส่งสาร
     3.4 มีความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการ
     3.5 มีความสามารถในการแบ่งขั้นตอนในการแปล
4.ประสบการณ์
     4.1 ฝึกฝนการแปลอยู่เสมอ
     4.2 มีความรู้ในงานหลายสาขา
     4.3 มีความเข้าใจในระบบงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานที่แปล
     4.4 หาความรู้ แลเข้ารับการอบรมทางด้านการแปล
     4.5 รักการอ่านงานแปลของคนอื่นๆ เพื่อศึกษาจุดดีและจุดบกพร่อง  
ลักษณะของงานแปลที่ดี  
ลักษณะงานแปลที่ดี ควรจะมีเนื้อหาข้อเท็จจริงตรงตามต้นฉบับ ใช้ภาษาที่ชัดเจนกระชับความ ใช้รูปประโยคสั้นๆ แสดงความคิดเห็นได้แจ่มแจ้ง ใช้ภาษาเปรียบเทียบได้เหมาะสม และรักษาแบบหรือสไตล์การเขียนของผู้แต่งงานต้นฉบับไว้ และมีการปรับแต่งถ้อยคำสำนวนให้เข้ากับสภาพสังคม เพื่อให้ผู้อ่านงานแปลเกิดความเข้าใจ
ลักษณะงานแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่ดี
 1. ภาษาไทยที่ใช้ในงานแปลนั้นมีลักษณะเป็นธรรมชาติ ไม่ติดสำนวนฝรั่ง ปรับให้เป็นสำนวนไทยตามที่ใช้กันโดยทั่วไป ใช้ศัพท์เฉพาสาขา และศัพท์เทคนิคได้เหมาะสมรอบคลุมความหมายได้หมด และใช้รูปประโยควรรคตอนตลอดจนสำนวนเปรียบเทียบได้เหมาะสมด้วย
 2. สามารถนำต้นฉบับภาษาอังกฤษมาเทียบเคียงกับคำแปลภาษาไทยได้ เน้นความชัดเจนของภาษาเป็นสำคัญ
 3.ใช้การแปลแบบตีความ แปลแบบเก็บความเรียบเรียงแลเขียนใหม่ ไม่แปลแบบคำต่อคำ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น